การจัดส่งอาหารไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดและการเติบโตของร้านอาหาร ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม บริการจัดส่งอาหารของคุณสามารถทำรายได้แซงหน้าร้านอาหารจริงของคุณได้ การทำ Food Delivery ให้ยอดขายแซงหน้าร้านในยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก หากวางแผนและใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม
นี่คือเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้ร้านของคุณประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่:
1. การจัดการเมนูและราคาสำหรับเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ
สร้างเมนูพิเศษสำหรับเดลิเวอรี่: พิจารณาเมนูที่คงคุณภาพได้ดีเมื่อผ่านการขนส่ง ไม่บูดง่าย รูปทรงไม่เสีย และยังดูน่ารับประทาน อาจมีเมนูเฉพาะสำหรับเดลิเวอรี่ที่ไม่ต้องมีที่หน้าร้าน
ปรับราคาให้เหมาะสม: กำหนดราคาที่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายของแพลตฟอร์ม (GP) ค่าบรรจุภัณฑ์ และยังคงมีกำไรที่น่าพอใจ อาจสูงกว่าหน้าร้านเล็กน้อยเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรสูงเกินไปจนลูกค้ารู้สึกไม่คุ้มค่า
ชุดโปรโมชั่น (Combo Set): จัดชุดเมนูที่คุ้มค่าและน่าสนใจ เช่น ชุดข้าว+เครื่องดื่ม, ชุดสำหรับ 2 คน, หรือชุดสำหรับครอบครัว เพื่อกระตุ้นยอดซื้อต่อออเดอร์
รูปภาพเมนูที่ดึงดูด: ถ่ายรูปอาหารให้สวยงาม แสงดี จัดวางน่าทาน เพราะลูกค้าตัดสินใจจากรูปภาพเป็นหลัก
2. บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม: ใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทานต่อความร้อน ความชื้น และการกระแทก สามารถปิดผนึกได้ดีเพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะ และคงอุณหภูมิของอาหารได้
แยกส่วนประกอบ: หากเป็นอาหารที่ต้องทานคู่กับซอสหรือเครื่องเคียง ควรแยกบรรจุภัณฑ์ เพื่อคงความสดใหม่และรสชาติของแต่ละส่วน
สร้างความแตกต่างด้วยบรรจุภัณฑ์: อาจออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีโลโก้ร้าน หรือมีดีไซน์ที่สวยงามเพื่อสร้างการจดจำและเพิ่มมูลค่า
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: พิจารณาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ หรือรีไซเคิลได้ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
3. โปรโมชั่นและแคมเปญการตลาด
ใช้โปรโมชั่นของแพลตฟอร์ม: เข้าร่วมแคมเปญส่วนลด ค่าส่งฟรี หรือโปรโมชั่นอื่นๆ ที่แพลตฟอร์มจัดขึ้น เพื่อเพิ่มการมองเห็นและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
จัดโปรโมชั่นของร้านเอง: เช่น ซื้อ 1 แถม 1, ลดราคาพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่, หรือส่วนลดสำหรับยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ
โปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย: ใช้ Facebook, Instagram, TikTok ในการโปรโมทเมนูใหม่ โปรโมชั่น และรีวิวจากลูกค้า เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างการรับรู้
ใช้ Influencer Marketing: ร่วมงานกับ Food Blogger หรือ Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เพื่อรีวิวและโปรโมทร้านของคุณ
4. การจัดการคำสั่งซื้อและบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ
ความเร็วในการเตรียมอาหาร: เตรียมวัตถุดิบให้พร้อมและบริหารจัดการครัวให้สามารถทำอาหารได้รวดเร็ว เพื่อลดเวลารอของลูกค้า
การสื่อสารกับลูกค้า: หากมีปัญหาหรือความล่าช้า ควรแจ้งลูกค้าให้ทราบทันที เพื่อสร้างความเข้าใจและลดความไม่พอใจ
ตอบกลับรีวิว: ตอบกลับรีวิวทั้งในแง่บวกและแง่ลบอย่างสุภาพและสร้างสรรค์ เพื่อแสดงความใส่ใจและนำไปปรับปรุง
รักษามาตรฐานความสะอาด: แม้จะเป็นเดลิเวอรี่ แต่ความสะอาดของร้านและกระบวนการทำอาหารก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ลูกค้าส่วนหนึ่งจะดูจากหน้าร้านของคุณ
5. การใช้ข้อมูลและวิเคราะห์ผลลัพธ์
วิเคราะห์ยอดขายและเมนูยอดนิยม: ตรวจสอบข้อมูลจากแพลตฟอร์มเพื่อดูว่าเมนูใดขายดี ช่วงเวลาใดมียอดสั่งเยอะ เพื่อวางแผนการจัดการสต็อกและพนักงาน
ทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า: ศึกษาว่าลูกค้าสั่งอะไรบ่อยๆ มาจากพื้นที่ไหน เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์การตลาดและการจัดโปรโมชั่น
ทดลองและปรับปรุง: อย่ากลัวที่จะทดลองเมนูใหม่ๆ หรือโปรโมชั่นใหม่ๆ และนำผลลัพธ์ที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาร้านอย่างต่อเนื่อง
การทำ Food Delivery ให้ยอดขายมากกว่าหน้าร้านต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ การบริหารจัดการที่ดี และความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้าออนไลน์ หากนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ ร้านของคุณก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ได้อย่างแน่นอน